คอนกรีตงานชายฝั่งทะเลซีแพค

คอนกรีตงานชายฝั่งทะเลซีแพค

คอนกรีตคุณภาพสูง สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป ที่ได้รับการออกแบบส่วนผสมด้วยทีมวิศวกรซีแพค เริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบและควบคุมคุณภาพการผลิตในทุกขั้นตอน พร้อมการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด จึงมั่นใจได้ว่าทุกโครงการก่อสร้างจะได้รับคอนกรีตที่มีคุณภาพส่งตรงจากซีแพคถึงมือคุณ

รายละเอียด

ปฎิวัติแนวคิดของคอนกรีตสำหรับงานชายฝั่งทะเล ด้วยคุณสมบัติของคอนกรีตที่พัฒนาขึ้นพิเศษ สำหรับงานชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะ สามารถต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต ซึ่งมีอยู่ในน้ำทะเล ไอทะเล น้ำกร่อย น้ำใต้ดิน และ ดินเค็ม ซึ่งได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย) โดยทั้ง คลอไรด์ และ ซัลเฟต จะส่งผลร้ายต่อโครงสร้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ที่อยู่ในระยะห่างจากชายฝั่งทะเล 0-15 กิโลเมตร ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ระยะห่างของสิ่งก่อสร้างงานคอนกรีตที่ห่างจากชายฝั่งทะเล มีผลต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคอนกรีต โดยในระยะ 5 กิโลเมตร คอนกรีตจะเกิดความเสียหายได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง และความเสียหายจะเกิดช้าลงเมื่อระยะห่างจากชายฝั่งมากขึ้น แต่ก็ยังเกิดความเสียหายอยู่ในช่วง 15 กิโลเมตร จึงแบ่งได้การเกิดความเสียหายเป็น 2 ระดับ คือรุนแรง และปานกลาง

คลอไรด์ จะเร่งปฎิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็กเสริม ทำให้สนิมเกิดได้เร็วขึ้น ส่วนซัลเฟต จะทำปฎิกิริยากับคอนกรีต ทำให้คอนกรีตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีความแข็งแรงลดลง

เหมาะสำหรับงานประเภท

โครงสร้างที่อยู่ในระยะห่างจากชายฝั่งทะเล 0-5 กิโลเมตร (ความเสียหายระดับรุนแรง) หรือโครงสร้างที่ต้องสัมผัสกับน้ำเค็ม น้ำกร่อย หรือ ดินเค็ม เช่น บางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คุณสมบัติ

  • ต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต โดยสามารถต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ ได้ถึงระดับความเข้มข้น 10,000 – 27,000 ppm และต้านทานซัลเฟตได้ถึงระดับความเข้มข้น 2,200 ppm
  • ต้านทานต่อแรงกระแทกของคลื่น และการขัดสีของกรวดทราย

คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง

  • ไม่ควรเติมน้ำเพื่อให้คอนกรีตมีความเหลวมากขึ้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติคอนกรีต ไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
  • ควรจี้เขย่าคอนกรีตอย่างถูกวิธี ตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโพรงในคอนกรีต และจะทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรง และคงทนเพิ่มขึ้น
  • การบ่มคอนกรีต ควรทำการบ่มชื้นคอนกรีตทันที หลังจากที่คอนกรีตเริ่มเซ็ตตัว อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7 วัน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การขังน้ำ ใช้น้ำยาสำหรับบ่มคอนกรีต ใช้กระสอบเปียกคลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่มตลอดเวลา หรือฉีดด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่มตลอดเวลา หรือตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย)
  • โครงสร้างและอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างพิเศษที่อาจจะต้องใช้วิธีการบ่มที่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากวิธีนี้

ดาวน์โหลดเอกสาร

สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบสินค้าได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้